แบ่งปันบนเฟสบุ๊ค
ทวีตบนทวิตเตอร์
อีสานใกล้ ไม่ไกลอย่างที่คิดเที่ยวง่ายไปได้ทั้งปี

อีสานวันนี้ คนส่วนใหญ่มองว่า อากาศร้อน แห้งแล้ง กันดาร ไกล เชย และราคาถูก แต่ก็ยกนิ้วให้เฉพาะเรื่องรสแซ่บนัวเท่านั้นมุมมองเหล่านี้ได้กลายเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับภาคการท่องเที่ยวเป็นความท้าทายต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงขั้นปฏิบัติประเด็นหลักที่จะต้องลงมือทำ ก็คือทำอย่างไรที่จะให้อีสานเปลี่ยนสภาพเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าจับตามอง น่าลงทุนน่าไปพัฒนา

สมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Photo : https://www.facebook.com/somchai.chompoonoi

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงทิศทางการท่องเที่ยวภาคอีสานกับ theleader.asia ว่า แม้อีสานทั้งภาครวม 20 จังหวัด ยังไม่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักก็ตาม แต่อีสานก็มีอะไรดีๆเยอะมากสามารถที่จะทำให้อีสานมีความโดดเด่นขึ้นมา เพราะฉะนั้นการทำงานต้องเปลี่ยนวิธีคิด วางยุทธศาสตร์และกำหนดกลยุทธ์ พร้อมด้วยวิธีทำที่ได้ผล มีประสิทธิภาพมากที่สุด เริ่มจากนำจุดอ่อนต่างๆ มาสร้างให้เป็นจุดแข็งให้ได้ระยะเร่งด่วนจะต้องสร้างให้เห็นและรู้สึกว่า อีสานใกล้ ไม่ไกลอย่างที่คิดอีกต่อไปทางอากาศโดยเที่ยวบินข้ามภาคจะเป็นแนวทางสำหรับประเด็นนี้ต้องร่นระยะเวลาเดินทาง เพราะโดยพื้นฐานแล้ว ภาคอีสานมีสนามบินหลายแห่งเช่น เลย อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์นครราชสีมา ในจำนวนเหล่านี้มีสถานะสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี

สายการบิน New Gen Airways

ปัจจุบัน สายการบิน New Gen Airways เปิดเที่ยวบินข้ามภาคโดยบินจากโคราชไปเชียงใหม่ โคราชไปภูเก็ต และมีแผนที่จะบินไปหาดใหญ่ในอนาคตก็มีแผนบินจากภาคอีสานไปต่างประเทศเช่นกัน ดังนั้น เราพยายามให้เกิดรับรู้ทางสมาร์ทโฟน เกิดความรับรู้ว่า อีสานอยู่ใกล้ เที่ยวง่าย นอกจากนี้ ระบบขนส่งของภาคอีสานก็มีความก้าวหน้า เช่น รถไฟความเร็วสูงจากจีนสร้างใกล้จะถึงเวียงจันทน์แล้ว ต่อไปก็จะวิ่งเข้าถึงกรุงเทพฯ ผ่านหนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี ขณะที่ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่ขอนแก่นใกล้จะเปิด สนามบินก็กำลังขยาย อีก 2 ปีเครื่องบินขนาดใหญ่ลงได้ และมีโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจะเกิดขึ้นที่ขอนแก่นอีกด้วย ต่อไป อีสานจะเป็นฮับระบบราง” นายสมชายกล่าว

แผนการสร้างตลาดนั้น นายสมชายเปิดเผยต่อไปว่า จีนเป็นตลาดใหญ่ ทุกวันมีเที่ยวบินจากจีนมาที่ลาว กัมพูชา
เป็นโจทย์ที่กำลังหาทางว่าทำอย่างไรจะเชื่อมกับ 2 ประเทศให้เกิดขึ้น เริ่มต้นจะใช้มรดกโลกเป็นตัวเชื่อมระหว่าง ไทย ลาว กัมพูชา เพื่อกระตุ้นให้นำเสนอขายโปรแกรมทัวร์เป็น 2 ประเทศ นำเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีนมาเที่ยวอีสานแล้วไปลาว หรือบินจากจีนมาลงกัมพูชาที่เมืองเสียมเรียบ แล้วมาเที่ยวอีสาน ขากลับออกจากอีสานไปเวียงจันทน์เพื่อบินกลับจีน ทั้งนี้ จะพยายามเริ่มทริปเป็นเดือนละครั้ง เมื่อมีดีมานด์กับซัพพลาย ก็จะขยับไปเป็นสัปดาห์ละครั้ง นักท่องเที่ยวก็จะทยอยเข้าอีสาน

นายสมชายกล่าวว่า “จุดแข็งประการหนึ่งของอีสาน ก็คือ เลียบแม่น้ำโขงมีด่านถาวรหลายจังหวัด ถือว่าเรามีประตูบ้านเยอะ พร้อมที่จะให้คนเข้ามา ด่านถาวรเป็นจุดบวกที่สามารถพัฒนาให้เข้าจุดเหล่านี้ได้ใช้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางเชื่อมไปที่ประตูบ้านหลายบานตามแนวตะเข็บ โดยภาพรวมแล้ว อีสานมีของดีทุกจังหวัดเราจะพยายามนำเสนอให้อีสานดูแล้วกระชับ มีบุคลิก มีอัตลักษณ์ จัดแบ่งการนำเสนอเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ดังนี้ อีสานเหนือนำเสนอเรื่องพญานาค อีสานกลางนำเสนอเรื่องไดโนเสาร์ อีสานล่างนำเสนอเรื่องขอมโบราณ เพราะฉะนั้น ภาคอีสานจะใช้เลข 3 เป็นตัวเล่น ขาย 3 อย่าง อีสานบน อีสานกลาง อีสานล่าง ขาย 3 ฤดู หน้าหนาวที่อีสานไม่แพ้ภาคเหนือ หน้าร้อนจะขายความอบอุ่นด้วยอัทธยาศัยและน้ำใจไมตรีของชาวอีสาน ช่วยลดความร้อน หน้าฝนจะขายอีสานเขียว ชุ่มฉ่ำไปทั่ว”

ทะเลบัวแดงที่อุดรธานี

นายสมชายกล่าวว่า แม้อีสานจะไม่มีทะเล ก็จะพยายามนำเสนอทะเลหมอกที่เขาใหญ่ เขาพระวิหาร ที่บึงกาฬ อุบลราชธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู นำเสนอทะเลบัวแดงที่อุดรธานี จัดเทศกาลอาหารทะเลที่นครพนม ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ดึงคนลาวเข้ามาร่วมงาน เป็นต้น ส่วนเรื่องรสแซ่บนัวที่ผู้คนยกนิ้วให้นั้นก็จะพยายามทำส้มตำ 20 จังหวัดออกมาให้ได้ ให้เกิดความแปลก มีสไตล์ มีอัตลักษณ์ของตัวเอง พยายามเปลี่ยนอีสานแซ่บนัวเป็นคูลอีสานมาเที่ยวแล้วรู้สึกสบาย เย็นกาย เย็นใจ มีอาหารที่มีอัตลักษณ์ ซึ่งนอกจากอาหารแล้ว จะนำเสนอเทศกาล งานประเพณีต่างๆของภาคอีสานตลอดทั้ง 12 เดือนโดยจะเน้นถึงความเก่าและวิถีชีวิตของคนอีสาน

“จะโปรโมทเที่ยวอีสาน สีสันอีสาน ดอกไม้บานทั้งปี เริ่มตั้งแต่ธันวาคม ขายดอกคริสต์มาสที่ภูเรือ ปลูกเป็นหมื่นไร่ ขึ้นปีใหม่ขายนับตะวันก่อนใครในสยามที่ผาแต้มมีดอกหญ้าคล้ายเฟิร์นขึ้นที่ผาแต้มเต็มไปหมดพอถึงกุมภาพันธ์ขายทุ่งทะเลบัวแดง มีนาคมขายกล้วยไม้ช้างกระที่ขอนแก่นเมษายนขายดอกคูณขอนแก่น พฤษภาคมมีดอกไม้ทานตะวันที่เขาใหญ่ มิถุนายน-สิงหาคม ขายดอกกระเจียวที่ชัยภูมิ กันยายน-ตุลาคมขายดอกหญ้าในนาข้าวเขาเรียกว่าหญ้าดอกบัว หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ ที่เหลือจะขายเรื่องเมืองประชุมสัมมนาขายการเลี้ยงส่งวัยเกษียณ ” นายสมชายสรุปตอนท้าย

Comments

comments

แบ่งปัน
Facebook
Twitter
บทความก่อนหน้านี้สิงห์ เอสเตท รับรางวัล “Thailand PES Award 2017”
บทความถัดไปสัมมนานวัตกรรมสีพ่นรถยนต์
LeaderCrew