แบ่งปันบนเฟสบุ๊ค
ทวีตบนทวิตเตอร์
Reverse logistics โอกาสใหม่ธุรกิจขนส่งไทยในกระแส e-Commerce

Highlight :

Reverse logistics หรือการขนส่งสินค้าคืนสู่ผู้ขายมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากนโยบายการคืนสินค้าฟรีของธุรกิจ e-Commerce ทั้งนี้ ประเมินว่าอัตราการคืนสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ราว 30% ของจำนวนการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมด โดยคาดว่าในปี 2018 ตลาด reverse logistics มีมูลค่าราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะทวีปยุโรปมีสัดส่วนมูลค่าการคืนสินค้าคิดเป็น 45% ของโลก โดยมีสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสินค้าที่ถูกคืนมากที่สุดจากการให้สิทธิผู้บริโภคในการคืนสินค้าได้อย่างเปิดกว้าง

อีไอซีคาดการณ์ว่าบริการ reverse logistics ของไทยในปัจจุบันมีมูลค่าราว 3 พันล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องโดยมีปัจจัยจากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce โดยเฉพาะกลุ่ม B2C และนโยบายการคืนสินค้าฟรี ซึ่งทำให้การส่งคืนสินค้ามากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้ นอกจากการให้บริการขนส่งสินค้ากลับจากผู้ซื้อแล้ว การให้บริการคลังสินค้าเพื่อรองรับ reverse logistics สำหรับสินค้าที่ส่งไม่สำเร็จและสินค้าที่ถูกส่งคืนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึง

Implication :

ผู้ประกอบการที่ต้องการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ reverse logistics ควรคำนึงถึง 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การมีจุดบริการรับฝากคืนสินค้า การให้บริการจัดการคลังสินค้า และการใช้เทคโนโลยี ด้วยความต้องการบริการ reverse logistics ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ประกอบกับจำนวนผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ยังมีไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์จะขยายขอบเขตการบริการมากขึ้น นอกจากนี้ การรับสินค้ากลับคืนจากจุดรับฝากสินค้ายังสามารถช่วยเพิ่มสินค้าขากลับในการขนส่งเพื่อกลับไปยังต้นทางได้อีกด้วย ผู้ค้าปลีกออนไลน์ควรวางแผนการบริการเพื่อรองรับสินค้า reverse logistics ที่จะเกิดขึ้นจากการมีนโยบายคืนสินค้าฟรี ที่ส่งผลให้มีการคืนสินค้าเพิ่มขึ้นตามมา โดยเฉพาะหลังจากช่วงแคมเปญที่มีปริมาณการสั่งซื้อสินค้าสูงกว่าปกติ ผู้ค้าปลีกออนไลน์จึงควรวางแผนการขยายความสามารถในการรองรับสินค้าที่จะถูกส่งคืน รวมถึงการเลือกผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน reverse logistics มาช่วยบริหารจัดการสินค้าที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบในการทำงานส่วนอื่นๆ

ผู้เขียน : นวพร โกมลสุรเดช, ที่มกา : www.scbeic.com

Comments

comments

  • แท็ก
  • featured
แบ่งปัน
Facebook
Twitter
บทความก่อนหน้านี้โฮมบายเออร์กรุ๊ป ร่วมกับ คณะวิศวกรรมฯ จุฬาฯ เปิดตัว “Chula-Home Dot Tech” นำเทคโนโลยี Data Science & Machine Learning พัฒนา Prop Tech ตอบโจทย์อสังหาฯ ครบวงจรครั้งแรกของไทย
บทความถัดไปสถาบันฝึกอบรมดีวัน ปิดหลักสูตร “THE SALES MASTER” รุ่นที่ 1 
LeaderCrew