ท่ามกลางกระแสการตื่นตัวของนักลงทุนในตลาด CryptoCurrency ที่มีพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ( บิทคอยน์ ) เป็นหัวหอก ทำราคาพุ่งปรี๊ดมากกว่าเท่าตัวในช่วงเวลาไม่นานนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่กูรูนักลงทุน ทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะมีการเตือนให้ระวังถึงเรื่องฟองสบู่ หรือแม้กระทั่งเตือนว่าเป็นการพนันอย่างนึงด้วยซ้ำ แน่นอนว่าก็มีหลายฝ่ายที่ออกมาคัดค้านความเห็นเหล่านั้นว่าตลาด CryptoCurrency ยังสามารถเติบโตไปได้อีกมาก เพราะด้วยเทคโนโลยี BlockChain ที่เข้ามาแก้ปัญหาความเชื่อใจ หรือแนวคิด Decentralized ที่ทำให้ใครก็ไม่สามารถควบคุมหรือแก้ไขข้อมูลในระบบได้แบบบเบ็ดเสร็จ ประกอบกับกระแสเงินทุนที่กำลังไหลเข้าสู่ตลาด CryptoCurrency อย่างต่อเนื่อง ก็นับได้ว่า ตอนนี้การลงทุน CryptoCurrency ก็เริ่มที่จะเข้าสู่กระแสหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ในขณะที่กูรูกำลังถกเถียงกันอยู่ว่าฟองสบู่หรือไม่ฟองสบู่ วันนี้ The Leader Asia ขอข้ามประเด็นฟองสบู่ไปก่อน แต่จะหยิบยก fact สนุกๆ เกี่ยวกับ Bitcoin และตลาด CryptoCurrency ก่อนว่าจริงๆแล้ว มันอยู่ตรงไหนกันแน่หากเทียบมูลค่าการลงทุนในตลาดโลกทั้งใบ
1. มูลค่าตลาด CryptoCurrency เติบโตกว่า 34 เท่า ในปี 2017
จากข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ https://coinmarketcap.com/ เว็บไซต์ที่คอยแสดงมูลค่าการซื้อขาย ของตลาด CryptoCurrency ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2560 ตลาด CryptoCurrency มีมูลค่าถึง 584,571,397,214 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือเกือบๆ 6 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐนั่นเอง โดยคิดเป็นสัดส่วนของสกุลเงิน BTC หรือ บิทคอยน์ ถึงกว่า 54.7% จากข้อมูลข้างต้น เมื่อเทียบกับต้นปีแล้ว เดือน มกราคม มูลค่าตลาด CryptoCurrency ยังอยู่ที่ 1 หมื่น 7 พันล้านดอลล่าส์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งถือว่าเติบโตกว่า 34 เท่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
2. เฉพาะ Bitcoin ถูกวิจารณ์ว่า ตาย/เจ๊งมาแล้วมากกว่า 146 ครั้ง
ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ แต่ไม่แน่ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย วลีนี้ก็คงยังใช้ได้กับตลาดบิทคอยน์ เพราะมีเว็บนึงที่คอยรวบรวมว่ามีข่าววิจารณ์ ว่า bitcoin dead หรือ บิทคอยน์เจ๊ง หรือตายมาแล้วกี่ครั้ง โดยข้อมูลล่าสุด จากเว็บไซต์ https://www.buybitcoinworldwide.com/bitcoin-obituaries/ นั้น บิทคอยน์เองถูกวิจารณ์ว่าได้ตายไปแล้วในสายตากูรู ถึง 146 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละครั้งราคาก็ขยับพุ่งขึ้นมากกว่าเดิมเสมอ
3. มูลค่าการซื้อขายหุ้นของบริษัท Apple ยังมากกว่า มูลค่าการซื้อขายตลาด CryptoCurrency ทั้งหมดในปัจจุบันเกือบเท่าตัว
ในช่วงต้นๆปีนั้นมูลค่าของตลาด CryptoCurrency ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลก และแม้ว่าในช่วงปลายปี ราคาของบิทคอยน์นั้นจะทยานพุ่งสูงขึ้นไปกว่า 18000 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อ 1 BTC แล้วก็ตาม แต่จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560 นั้น มูลค่าการซื้อขายหุ้นของ Apple อยู่ที่ประมาณ 9 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่ามูลค่าการซื้อขายตลาด CryptoCurrency เกือบราวๆเท่าตัวเลยทีเดียว
4. บิทคอยน์ส่วนใหญ่ถูกขุดออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดในเร็ววัน
แม้ว่ากระแสราคาบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นอย่างทยานก้าวกระโดดจะดึงดูดให้กลุ่มคนที่ทำเงินด้วยวิธีการ Mining เข้ามามากก็ตาม แต่เงื่อนไขของระบบเองที่กำหนดให้จำนวนรางวัลบิทคอยน์ที่มอบให้แก่นักขุดได้น้อยลงครึ่งนึงในช่วงเวลานึงๆ ไปเรื่อยๆ จึงทำให้ปัจจุบัน บิทคอยน์ถูกขุดมาอยู่ในระบบที่ 16.7 ล้าน BTC จาก ทั้งหมด 21 ล้าน BTC และมีการคาดการณ์ว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี ถึงจะสามารถขุด BTC จากระบบออกมาหมุนเวียนในระบบได้ทั้งหมดครบ 21 ล้าน
5. เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว ตลาด CryptoCurrency ยังห่างไกล
ในปี 2017 ตลาดหุ้นทั่วโลกนั้นมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 73 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งหากเทียบสัดส่วนกันแล้ว ตลาด CryptoCurrency มีขนาดแค่ 6 แสนกว่าล้านดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น
6. แค่จำนวนเม็ดเงินการลงทุนขั้นต่ำที่ประเมินได้ในตราสารอนุพันธ์ทั้งโลก ก็ยังมากกว่าเม็ดเงินในตลาด CryptoCurrency จนแทบจะเทียบกันไม่ได้
จำนวนเม็ดเงินในตราสารอนุพันธ์ทั่วโลกในขั้นต่ำที่สามารถประเมินได้ มีมากกว่า 544 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ หรือมากกว่ามูลค่าการซื้อขายตลาด CryptoCurreny อยู่กว่า 1000 เท่า และถ้าหากนับรวมที่นักวิชาการคาดการไว้นั้น อาจสูงถึง 1200 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ จนไม่สามารถเขียนให้อยู่ในรูปกราฟให้สวยงามได้เพราะ ตลาด CryptoCurrentcy คงกลายเป็นแค่จุดเล็กๆ บนแท่งกราฟอ้วนๆ เท่านั้น
สรุปแล้ว ?
ก็เป็น fact สนุกๆที่ The Leader Asia อยากจะให้ผู้อ่านให้ลองจินตานาการและเห็นภาพให้กว้างขึ้น ว่าแม้ตลาด CryptoCurrentcy จะเติบโตอย่างมากในช่วงปี 2017 ก็ตามแต่ก็ยังห่างไกลมากกับมูลค่าการลงทุนในระดับโลก ซึ่งหากจะมองในแง่ดีก็คือยังมีพื้นที่ว่างอีกมากให้เติบโต
แต่การคาดการณ์ว่าทิศทางตลาด CryptoCurrentcy จะเติบโตแบบก้าวกระโดดไปได้แค่ไหน ฟองสบู่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะเป็นสิ่งที่เราคงต้องรอดูกันต่อไป สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุนก็ควรจะศึกษาจากหลายๆแหล่งข่าว เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่จะทำกำไร
เครดิตข้อมูลจาก
All of the World’s Money and Markets in One Visualization
https://coinmarketcap.com/
https://www.buybitcoinworldwide.com/bitcoin-obituaries/