นายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชียงใหม่ เวลล์เนส กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ“Chiangmai Smart Community” และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ จังหวัดเชียงใหม่เป็นเป้าหมายที่ผู้สูงอายุต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาพำนักในระยะยาว หรือที่รู้จักกันว่าพักอาศัยแบบลองสเตย์ ทางบริษัทฯจึงมีแนวคิดที่จะลงทุนทำโครงการที่พักรองรับกลุ่มผู้สูงอายุแบบครบวงจร ดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก บนพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ บริเวณตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ภายในโครงการ“Chiangmai Smart Community” จะประกอบไปด้วย อาคารพักอาศัยเฟส 1 จำนวน 471 ยูนิต เฟส 2 จำนวน 300 ยูนิต โรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 120 ห้อง อาคารดูแลผู้ป่วย ศูนย์ดูแลสุขภาพ คลับเฮ้าส์ ศูนย์อาหาร ศูนย์ช้อปปิ้ง ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาจจะกล่าวได้ว่า “Chiangmai Smart Community” เป็นโครงการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวที่ครบวงจรที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย
อาคารพักอาศัยเฟส 1ของโครงการ“Chiangmai Smart Community” จำนวน 471ยูนิตนั้น ประกอบไปด้วยห้องพัก 6 แบบด้วยกัน กล่าวคือ แบบที่ 1)Superior Room ขนาดพื้นที่ 36-38 ตรม. จำนวน 194 ยูนิต แบบที่ 2)Deluxe Room ขนาดพื้นที่ 42ตรม. จำนวน 62 ยูนิต แบบที่ 3)Executive Deluxe ขนาดพื้นที่ 50-57 ตรม. จำนวน 166 ยูนิต แบบที่ 4)Executive Suite ขนาดพื้นที่ 60 ตรม. จำนวน 40 ยูนิต แบบที่ 5)Grand Executive Suite ขนาดพื้นที่ 75 ตรม. จำนวน 2 ยูนิต และแบบที่ 6)Luxury Premier Suite(River View)
ขนาดพื้นที่ 96 ตรม. จำนวน 7 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆภายในโครงการ“Chiangmai Smart Community” จะประกอบไปด้วย การบำบัดโรคด้วย ธาราบำบัด ดนตรีบำบัด กีฬาบำบัด สถานที่พักผ่อนแบบรีสอร์ท มีบริการรถจักรยาน ถนนสำหรับเดิน/วิ่งเพื่อออกกำลัง มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ กีฬาต่างๆ กิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง กิจกรรมสันทนาการ กิจกรรมตามเทศกาลหรืองานประเพณี มีบริการทำความสะอาดห้องพัก มีบริการอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่นหรือออนเซน รวมไปถึงบริการทางด้านอาหารและโภชนาการ เป็นต้น นอกจากนี้
มีบริการรถรับส่งเข้าเมือง บริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินมีบริการส่วนกลางจากเจ้าหน้าที่พยาบาล และมีบริการอื่นๆหลายรายการที่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกอีกด้วย
สมาชิกของโครงการ“Chiangmai Smart Community” จะมีสายรัดข้อมือประจำตัว หากเกิดกรณีฉุกเฉิน สามารถกดเรียกพนักงานได้ทันที ผู้ที่จะเข้ามาพำนักในโครงการต้องสมัครเป็นสมาชิกเท่านั้น โดยค่าสมาชิกเริ่มนต้น ที่ 6,000,000-10,000,000 บาท ต่อระยะเวลา 20 ปี มีค่าบริการรายเดือนๆละ 36,000บาท ทั้งนี้ ในโครงการสามารถรับสมาชิกได้ประมาณ 500 ราย โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้สูงอายุ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โครงการดังกล่าวนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ดำเนินโครงการพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขอันเข้มงวดจากแหล่งทุนทุกประการ นายเฉลิมชาติกล่าวเสริมในตอนท้าย
