นักจิตวิทยาเชิงบวก ชาร์ล สไนเดอร์ (Charles Snyder) เจ้าของผลงานวิจัยเรื่อง “ทฤษฎีความหวัง”(Hope Theory) เชื่อว่า ความสำเร็จในชีวิตของคนเรานั้นต้องเริ่มต้นจากการมี 3 สิ่งต่อไปนี้ คือ
1.“ความหวัง”การดำเนินชีวิตอย่างมีจุดหมาย หรือมีเป้าหมายที่ชัดเจน
2.“ความรู้” การรู้และเข้าใจถึงวิธีการหรือหนทางต่างๆที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังไว้ และ
3.“ความมุ่งมั่น” ความตั้งใจและความอดทนที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเพื่อไปถึงเป้าหมาย
ชาร์ล สไนเดอร์ บอกว่า “ความหวัง” เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของภารกิจทุกอย่างเพราะไม่ว่าเราจะมีทักษะหรือพรสวรรค์มากมายแค่ไหน หากไม่มีความหวังก็เหมือนขาดทั้งทิศทางและแรงผลักดันที่จะทำให้ประสบความสำเร็จอีกงานวิจัยที่สอดคล้องกันพบว่า “พนักงานขาย” ที่มองโลกในแง่ดีนั้นสามารถปิดการขายได้มากกว่าพนักงานขายที่มองโลกในแง่ลบกว่า 88% นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อประสบปัญหาขายของไม่ได้ พนักงานที่มองโลกในแง่ดีนั้นจะเสาะหาวิธีการแก้ปัญหา เช่น การลองโทรหาลูกค้าซ้ำๆ หรือทดลองเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆพนักงานที่คิดบวกมีความพยายามต่างจากพนักงานขายที่มองโลกในแง่ลบที่มักจะยอมแพ้ และล้มเลิกความตั้งใจในการขายนั่นเป็นเพราะความคิดในแง่ลบส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคิดหาทางออกที่สร้างสรรค์
นักจิตวิทยาชั้นนำเห็นว่า การมองโลกในแง่ดี ทำให้เกิดความมั่นใจ และความมั่นใจนั่นเอง ที่นำไปสู่ “การทดลอง” หรือ “การลงมือทำ” หรือที่เราเรียกกันว่า “Bias towards Actions” ซึ่งเป็นทัศนคติสำคัญที่องค์กรจะต้องมีหากต้องการที่จะทดลองหรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ Bias towards Actions นั้นเป็นแนวคิดตรงกันข้ามกับ Discussion based Work หรือการประชุมถกเถียงเน้นลงมือทำแล้วปรับ มากกว่าการพิจารณาความเสี่ยง หรือข้อดี ข้อเสียผิดพลาดก็ไม่เป็นไร ถือเป็นประสบการณ์ แล้วเริ่มต้นใหม่เพราะหากกลัวและระวังไปหมดทุกอย่าง ก็จะไม่สามารถลงมือทำอะไรได้เลย
ดังนั้น ด้วยทัศนคติที่มองโลกในแง่ดี มีพลังที่เป็นบวก เปี่ยมไปด้วยความหวังจึงทำให้คุณรมย์รวินทร์ ธัญเศรษฐ์กุล กรรมการผู้จัดการ คุณเยาวลักษณ์ อินทศรผู้อำนวยการทั่วไป พร้อมด้วยฝ่ายบริหารและพนักงานของบริษัท The New Concept Property จำกัด สามารถสร้างแบรนด์ “The New Concept” ก้าวไปข้างหน้าจนเป็นเจ้าตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หรือ “Residence For Investment” ของจังหวัดเชียงใหม่ สามารถสร้างมูลค่าและผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนได้ชัดเจนสม่ำเสมอ และยั่งยืน อาจจะกล่าวได้ว่าคุณรมย์รวินทร์มีพื้นฐานครบทุกข้อตามทฤษีความหวังของชาวร์ล สไนเดอร์อันได้แก่ ความหวัง ความรู้ และความมุ่งมั่น
วันนี้ คุณรมย์รวินทร์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืนสร้างแบรนด์ “The New Concept” ให้มีเสน่ห์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าและมุ่งมั่นที่จะลงทุนสร้างโครงการของบริษัทให้ตอบโจทย์ผู้ลงทุนครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยความรู้และประสบการณ์ของเขาและทีมงานงานแต่ละด้านของบริษัทแห่งนี้ จึงมีทั้งศาสตร์ ทั้งศิลป์ ผสมกันอย่างไร้ที่ติทั้งนี้ก็เพราะ ผู้นำองค์กรอย่างเขากล้าคิดที่จะสร้างความแตกต่างกล้าที่จะลงทุนในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ The New Concept คุณรมย์รวินทร์ไม่ใช่นักธุรกิจที่กลัวอะไรง่ายๆ หรือระวังไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นงานทุกด้านของบริษัทแห่งนี้ จึงก้าวไปข้างหน้า เร็วบ้าง ช้าไปบ้างเป็นไปตามจังหวะอย่างพอดี ซึ่งในปี2560นี้ บอสใหญ่ของค่าย The New Concept เห็นว่า น่าจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นปฏิวัติตัวเองของบริษัท คุณรมย์รวินทร์กล่าวเช่นนั้นกับผู้สื่อข่าวจากเว็บไซด์ The Leader.Asia
“ ปี 2560 ผมเรียกว่าเป็นปีที่ The New Concept ปฏิวัติในช่วงที่ 2 มากกว่าในช่วงแรกนั้น ลักษณะของผมเป็นเถ้าแก่ SME นะครับ ที่เป็นผู้จัดการเองทั้งหมดมีลูกน้องก็สั่งๆ สั่งให้ทำ ซึ่งตอนนั้นไม่ใช่ Professional มาทำงาน ความรู้เรารู้กว้างๆแต่เราไม่ได้รู้ลึก นี่คือ ช่วงที่ 2 ช่วงการปฏิวัติเราเอามืออาชีพระดับท็อปมาช่วยงาน มาช่วยงานในแต่ละด้านที่เชี่ยวชาญ เช่นงานก่อสร้าง งานออกแบบ งานดีไซน์ งานบริการ สำหรับผมจะดูภาพรวมดูทิศทางว่าจะไปอย่างไร ” คุณรมย์รวินทร์กล่าวรอยยิ้มและสายตาอันมุ่งมั่น
คุณรมย์รวินทร์อธิบายว่า “The NewConcept” ได้มืออาชีพฝีมือดีมาร่วมงานหลายคน อาทิเช่น อาจารย์เต้ย(คุณธนวัช โพคะรัตน์ศิริ)จากบริษัท สแป จำกัด ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในด้านการก่อสร้างรวมทั้งวางรากฐานใหม่ในการฝึกอบรมทีมงานก่อสร้างให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และได้ร่วมงานกับบริษัทมาระยะหนึ่งแล้วในส่วนของงานบริการ ได้อาจารย์กิติกรมาช่วยงาน (คุณกิติกร เถินบุรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการโรงแรม มีประสบการณ์กว่า 40ปี ผ่านงานบริหารโรงแรมระดับห้าดาวมาแล้วหลายแห่ง อาทิ เชอราตัน ดุสิตธานี เป็นต้น) ทั้งนี้ เพื่อที่จะวางรากฐาน สร้างระบบปรับปรุงแก้ไขงานบริการด้านต่างๆของ “The New Concept”ให้เป็นไปตามมาตรฐานของระดับห้าดาว เป็นไปตามเกณฑ์ชี้วัดในระดับสากล
คุณรมย์รวินทร์เปิดเผยถึงภาพรวมว่า “ผมได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น 40% ปี 2558ผมได้ยอดขายประมาณ 300กว่าล้านบาท ปี2559ได้ยอดขาย 461ล้านบาทพลาดเป้าไป 9% เป็นเป้าที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมันก็โอเคแล้วครับ เราพยายามหาตลาด Blue Oceanเราเชื่อมั่นว่า เราทำได้จริงๆ ผมจ้างคนที่เป็นงาน ผมจ้างผู้เชี่ยวชาญมาขณะเดียวกัน ต้องตอบโจทย์ทางด้านบริการให้ได้ผมใช้คอนเซปท์จากการสังเกตตลาดหลุยส์วิคตอง สงสัยว่าทำไมหลุยส์วิคตองเขาทำได้ กระเป๋าใบละ 4-5หมื่น ทำไมจึงซื้อขายกันจังเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี หลุยส์วิคตองไม่กระทบ เขามีอะไรดี ทำไมคนถึงซื้อ! ”
และกล่าวต่อไปว่า “ กลุ่มทัวร์ที่มาเชียงใหม่เปลี่ยนสภาพจากมากับทัวร์ 60%มาเอง 40% ตอนนี้ เปลี่ยนมากับทัวร์เพียงแค่ 35% แล้วมาเอง 65% นั่นหมายความว่าพฤติกรรมของลูกค้าคนจีนนั้น เขามากับทัวร์ครั้งแรกเป็นไกด์ไลน์เพื่อรู้จักเชียงใหม่ก่อน แล้วหลังจากนั้นเขาเริ่มมาเอง ท่องเที่ยวเองแต่ตลาดโรงแรมเขาเห็นแล้ว สามดาว สี่ดาว ห้าดาว นั้น เขาเห็นแล้ว รู้จักแล้วแต่ยังไม่มีเรสซิเด้นท์ไหนที่ตอบโจทย์ห้าดาวได้ เราจะเป็นเจ้าแรกที่ลูกค้ามาแล้วจะเป็น One Stop Service เดินทางมาถึงแล้ว มีรถมารับ มีสปา มีบริการทุกอย่างครบท่องเที่ยวในเชียงใหม่ครบ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้ว่า คุณสไตล์แบบไหนแบบAdventure เราก็มีไกด์พาให้ สไตล์หรูมีทุกอย่างครบหมดท่องเที่ยวแบบครบวงจร ”
ในฐานะผู้นำตลาด Residence For Investment ในจังหวัดเชียงใหม่โครงการต่างๆภายใต้แบรนด์ “The New Concept” เช่น The New Concept Boutique Condominium , The New Concept Garden Pool Villa , The New Concept Office Plus และ The New Concept Colonial ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนอย่างหนาแน่น แบบปากต่อปากทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติทุกโครงการสามารถตอบโจทย์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแท้จริงทำให้งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าต้อนรับลมหนาว หรืองาน Thank You Party ที่จัดขึ้นทั้ง 5ครั้ง นับตั้งแต่เดือนธันวาคม2559เป็นต้นมา จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่ละครั้งมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ล่าสุด บริษัท The New Concept Property จำกัดได้เปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่ใกล้สี่แยกสะเมิงโดยการออกแบบโครงการล่าสุดนี้ ได้จำแนกตามกลุ่มและตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า 3 ธีมด้วยกัน คือ Romance – Enjoy – Harmony คุณรมย์รวินทร์อธิบายว่า “ ทั้ง 3 อารมณ์ จะเป็นอาคารโลว์ไรซ์ อาคารละ 4 ชั้นเรียกว่า ชั้น G ชั้น 1 2 3 หน้าตาของอาคารจะเปลี่ยนไปตามลักษณะกลุ่มลูกค้าที่มาพักอาศัย ชั้น Gจะเป็นชั้นใต้ดิน โครงการนี้จะไม่มีจุดอ่อน ด้านในเป็นสระว่ายน้ำจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ แล้วก็เห็นสวน อีกด้านหนึ่งจะเห็นภูเขา แล้วปกติชั้น 1 เขาจะไม่เอากัน แต่ชั้น 1จะติดสระ….จุดเด่นของแต่ละอาคารจะไม่มีคอยน์ร้อนอยู่หน้าห้อง ไม่เหมือนคอนโดนะครับและการใช้งานจะใช้ได้ดีขึ้น การออกแบบจะเป็นสไตล์ Natural Modernแต่ละชั้นดีไซน์จะไม่เหมือนเดิม คอนโดที่อื่นชั้น 1 จะถูกที่สุด แต่ที่นี่แพงที่สุด ชั้น 1จะเป็นชั้นที่มีเพดานสูงประมาณ 3 เมตร
ชั้นนี้สามารถเดินเข้าสระน้ำได้โดยตรง…ทุกโซนจะมีสระว่ายน้ำ รวมแล้ว 3 สระมีการออกแบบสระน้ำตามอารมณ์ของผู้พัก เน้นในเรื่องความเป็นส่วนตัวจะมีสระจากุชซี่โดยรอบ พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ใช้งบประมาณด้านแลนด์สเคป ใส่ต้นไม้เข้าไปหลายล้านบาทเราจะไม่ให้รถจอดข้างใน จะจอดในที่จอดรถ และมีรถกอล์ฟรับส่ง ผมว่าเวลานี้จะเป็นการจัดโซนที่สวยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ มันเป็นโรงแรม 5 ดาว รุ่นใหม่พื้นที่ขนาดนี้ สามารถสร้างได้ถึง 10 อาคาร แต่เราเอากำไรจากตึกออกมาเน้นไปที่พื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้มีความลักซ์ชัวรี่เป็นการลงทุนเพื่อผู้พักอาศัย ”
คุณรมย์รวินทร์เสริมต่อไปว่า “ เมื่อก่อนผมการันตี 5 ปี โครงการนี้ผมการันตี 20 ปี ความน่าสนใจอยู่ตรงนี้ครับ การันตีผลตอบแทนปีละ 8%ลูกค้าสามารถเปลี่ยนมือได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องรอครบ 5 ปี เช่น อาคารสร้างเสร็จ วันนี้โอน ผมจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ 1 ปีก่อน แล้วพอใกล้จะครบปี ลูกค้าซื้อไป 1.59ล้านบาท ผมรับซื้อคืนจากลูกค้าที่ 1.62 ล้านบาท โดยที่ลูกค้ารับค่าเช่าปีแรกไปแล้วขณะเดียวกัน ลูกค้าบอกว่า ลูกค้าไปขายคนอื่นแพงกว่า ขายที่ 2 ล้านบาทเปลี่ยนมือไป แต่สัญญาเช่าล็อคไว้แล้วที่ 20 ปี ในราคาค่าเช่น 1.2 แสนบาทต่อปีลูกค้ามองว่าได้ค่าเช่า 10%เหมือนกัน มันจึง Win Win ทุกฝ่ายผมทำเพื่อทำโรงแรมจริงๆ ไม่ได้เอากำไรทอนคืนให้ลูกค้า ”
ขณะเดียวกัน ช่วงไตรมาสแรกของปี2560 บริษัท The New Concept Property จำกัดได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารครั้งสำคัญโดยนำมืออาชีพที่เชี่ยวชาญระดับท็อปของเชียงใหม่เข้ามาร่วมเป็นบอร์ดของบริษัท และร่วมบริหารงานพร้อมๆกันหลายด้าน เช่นคุณธนวัช โพคะรัตน์ศิริ ที่ปรึกษาบริหารโครงการ คุณภาณุภัค วิมลสันติรังสีที่ปรึกษาด้านก่อสร้าง คุณสญชัย ชาติบัญชาชัย ที่ปรึกษาด้านไอที คุณกิติกร เถินบุรินทร์ ที่ปรึกษาด้านโรงแรม เป็นต้น ซึ่งบอร์ดชุดอื่นกำลังทยอยปรับ ส่วนบอร์ดชุดนี้จะรับผิดชอบงานตามความเชี่ยวชาญ และทำหน้าที่วางรากฐาน สร้างระบบ และร่วมกันขับเคลื่อนงานของบริษัท ให้รองรับการเติบโตทางธุรกิจก้าวไปสู่เป้าหมายข้างหน้า คือ การเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในอนาคตอันใกล้นี้
คุณรมย์รวินทร์กล่าวถึงความสำคัญของการปรับโครงสร้างผู้บริหารว่า “มีส่วนส่งเสริมธุรกิจของบริษัทมากเลยครับ เราได้ความเป็นมืออาชีพได้ความเป็นมาตรฐานมากขึ้น
สามารถตอบสนองการบริการในระดับอินเตอร์ได้อย่างแท้จริง บริการของThe Newconcept จะเป็นเกรดของโรงแรม ไม่ใช่เกรดของคอนโดมิเนียมความเป็นมาตรฐานเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ เราค่อยๆทำ ค่อยๆก้าวครับจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ”จากประสบการณ์ที่คุณรมย์รวินทร์ได้รับมานั้น เขาเชื่อว่าทำเลที่ตั้งโครงการภายใต้แบรนด์ The New Concept สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนต่างชาติได้ ทุกโครงการเงียบสงบ ปลอดภัย ไม่พลุกพล่านเหมือนอยู่ในเมือง อากาศดี สิ่งแวดล้อมดี จึงเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าในลำดับต้นๆ “
ชาวต่างชาติที่มาซื้อพร็อพเพอร์ตี้ในเชียงใหม่ ไม่นิยมซื้อในเมืองนะครับเขาจะจับเวลาจากที่ตั้งโครงการเข้าไปในตัวเมือง ใช้เวลาเท่าไหร่ส่วนใหญ่ต้องไม่เกิน 30 นาที ใกล้ซุปเปอร์มาร์เก็ต ใกล้สถานพยาบาลหรือไม่เพราะไลฟ์สไตล์ของชาวต่างชาติที่อยู่ในเชียงใหม่นั้นเขาจะนิยมซื้อของกินของใช้ตุนไว้ หลายวันกว่าจะเข้าเมืองสักครั้งงานทุกอย่างของบริษัทดำเนินไป เป็นไปตามแผน ผมตั้งใจไว้ก็คือ เดอะ เบสท์ เท่านั้นครับ คุณรมย์รวินทร์เปิดเผยถึงแนวคิดว่า
“ผมไม่ได้มุ่งไปที่การขายอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นแต่เป็นการตลาดที่เน้นไปในด้านเชิงการท่องเที่ยว ลักษณะโฮมสเตย์ ลองสเตย์มากกว่า ซึ่งเทรนด์นี้ ต่อไปจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดทั้งโลกจะมีเรื่องการท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้องดังจะเห็นได้จากการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย การทำธุรกิจของ The New Concept อิงกับเรื่องการท่องเที่ยวเพราะแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจะมาแบบครอบครัว โดยไม่พึ่งบริษัททัวร์อีกต่อไปจะมีแนวโน้มสูงมาก นักท่องเที่ยวนิยมมาเอง เป็นแนวโน้มที่เราเห็น เราติดตามให้ทัน เราจะตอบโจทย์แก่เขาให้ครบทั้งหมด ด้วยความโปร่งใสผมทำธุรกิจตามเทรนด์ของการท่องเที่ยว ตามเทรนด์ของการย้ายถิ่นพำนักอาศัยตามเทรนด์ในลักษณะของโฮมสเตย์ หรือลองสเตย์ เทรนด์ในลักษณะของสุขภาพผมตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่ม ทุกชาติ โดยใช้ความเชี่ยวชาญแต่ละด้านมาประกอบกันให้เกิดบริการที่ดี เกิดขึ้นให้ได้ ไตรมาส 2 ปรับงานทุกด้าน ไตรมาสที่ 3ดำเนินการพร้อมกันทุกด้าน ให้เห็นผลในไตรมาสที่ 4 เราจะฉีกแนวให้มากขึ้น ”
ในมุมมองของคุณรมย์รวินทร์นั้น เขากล่าวว่า “นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่จะมองว่า อะไรที่เขาจ่ายแล้วมันคุ้ม ยุติธรรมได้รับความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ตามไลฟ์สไตล์ของเขาเมื่อเขาสัมผัสและได้รับประสบการณ์ที่ดีแล้ว ผมเชื่อว่าเขากระจายถ่ายทอดให้เพื่อนๆหรือคนใกล้ชิด ได้ฟังแน่นอน ต่อไปประสบการณ์และความคุ้มค่าของนักท่องเที่ยวที่ได้รับ จะเป็นกระแสหลักจะนิยมมาเองไม่พึ่งทัวร์อีกต่อไป เขาจะเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาเห็นเชื่อในเรื่องที่เขาจ่าย เชื่อมั่นในเรื่องของความคุ้มค่าที่เขาได้รับแล้วเขาจะไปบอกต่อ การตลาดที่มาจากโฆษณาล้วนๆ จะไม่ค่อยมีใครเชื่อแต่การตลาดแบบบอกต่อ ทรงพลังมากกว่า The New Conceptเติบโตมาจากตลาดบอกต่อครับ ไม่ได้เติบโตมาจากการโฆษณา ”
