หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของส่านซีคือ “เจดีย์ห่านป่าใหญ่” ที่วัดต้าฉือเอิน ซึ่งมีประวัติว่าวัดแห่งนี้สร้างโดย เจ้าชายหลี่จื้อ ราชวงศ์ถัง ใน ค.ศ.648 เพื่อถวายแด่พระราชมารดา ครั้นเมื่อขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้แล้วใน ค.ศ.652 จึงได้สร้างเจดีย์ตามคำขอของ “พระถังซำจั๋ง” เพื่อเก็บรักษาพระไตรปิฎกที่อันเชิญมาจากอินเดีย ต่อมาแปลเป็นภาษาจีน 75 เล่มสมุด 1,335 ม้วน
เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Big Wild Goose Pagoda) เป็นศิลปะจีนผสมอินเดีย เดิมสร้างแค่ 5 ชั้น บูรณะสมัยราชวงศ์หมิงและชิง กลายเป็น 7 ชั้น สูง 64.7 เมตร
ที่มาของชื่อ “ห่านป่าใหญ่” นั้นเล่ากันว่า ตอนที่พระถังซำจั๋งรอนแรมอยู่กลางทะเลทรายจนเกือบจะอดน้ำตาย ได้เห็นฝูงห่านป่าบินผ่าน จึงติดตามไปในทิศทางเดียวกันด้วยเชื่อว่าจะนำไปสู่แหล่งน้ำซึ่งก็ได้พบแหล่งน้ำจริงๆ จนรอดตาย เมื่อได้สร้างเจดีย์จึงได้ตั้งชื่อว่า “ห่านป่าใหญ่” เพื่อเป็นที่ระลึก
นอกจากองค์เจดีย์อายุนับพันปีแล้ว ระหว่างการเยี่ยมชมพระอุโบสถในวัด สังเกตุว่าก่อสร้างโดยไม่ใช้ตะปูในการยึดเสาคาน แต่กลับมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรับแผ่นดินไหวในระดับ 8 ซึ่งที่ส่านซีมีเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ส่วนที่พระอุโบสถหลังที่ 2 นั้นเป็นที่ประดิษฐานองค์พระสังกัจจาย “หมี่ เล่อ ฝอ” ที่สวยงาม แตกต่างจากพระสังกัจจายที่คนไทยรู้จักพบเห็นว่าเป็นพระหัวล้านพุงพลุ้ย
อาคารด้านหลังมีแผ่นไม้แกะสลักสวยงามที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไปชมพูทวีปของพระถังซำจั๋ง ส่วนด้านหน้าวัดจะมีรูปหล่อพระถังซำจั๋งองค์ใหญ่ยืนเด่นสง่างาม เสมือนประกาศจะสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่กับโลกตลอดไป
